จอมโจรคิด

 

ชื่อเล่น จอมโจร 1412, จอมโจรคิด, เรดแฮริงก์ (นามแฝงในสันนิบาตคนรักมายากล)

อายุ 17  (อายุที่เปิดเผยในเล่ม 20 ในร่างของโดอิโตคือ 21 ปี)

เพศ ชาย

เกิด 21 มิถุนายน  

ความสัมพันธ์ คุโรบะ โทอิจิ (ผู้พ่อ, จอมโจรคิดรุ่นที่ 1) (เสียชีวิตแล้ว)    จิอิ เควสโนสุเกะ (ผู้ช่วยพ่อ,จอมโจรคิดชั่วคราว(ระหว่างที่ คุโรบะ โทอิจิ ตาย และ เลิดเมื่อ คุโรบะ ไคโตะ เจอห้องลับในบ้าน

ประวัติ

          คุโรบะ โทอิจิ ซึ่งเป็นจอมโจรคิดรุ่นพ่อปรากฏตัวในฐานะนักมายากลและอาชญากรเมื่อ 18 ปีก่อนที่จะเกิดเรื่องในมังงะเรื่อง จอมโจรอัจฉริยะ โดยปรากฏตัวครั้งแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสพร้อมด้วยผู้ติดตามชื่อจิอิ โคโนะสึเกะ โทอิจิมีชื่อเสียงมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็นนักมายากลมือหนึ่งของโลก10 ปีต่อมาหลังจากการปรากฏตัวครั้งแรก โทอิจิถูกสังหารระหว่างการแสดงโดยองค์กรองค์กรหนึ่งที่ต้องการชิง แพนโดร่า อัญมณีที่จะมีสีแดงและหลั่งน้ำตาในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ที่เชื่อว่าผู้ที่ได้ดึ่มน้ำตาจากแพนโดร่าจะเป็นอมตะหลังจากนั้นเมื่อเริ่มเรื่องจอมโจรอัจฉริยะ จิอิ ซึ่งเป็นผู้ติดตามของโทอิจิได้ปลอมตัวเป็นจอมโจรคิดโดยหวังจะให้องค์กรที่สังหารโทอิจิปรากฏตัว โดยการปรากฏตัวในครั้งนี้เน้นการขโมยอัญมณีที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นหลัก ต่างจากครั้งอื่น ๆ ที่มีการขโมยอัญมณีนอกประเทศญี่ปุ่นด้วยเป็นเวลาเดียวกับที่ คุโรบะ ไคโตะ ซึ่งเป็นบุตรของโทอิจิได้ค้นพบความจริงว่าพ่อของเขาเป็นจอมโจรคิดและถูกสังหารโดยองค์กรดังกล่าว ไคโตะจึงรับหน้าที่เป็นจอมโจรคิดเพื่อล่อให้องค์กรที่สังหารพ่อของเขาปรากฏตัวเพื่อสืบทอดหน้าที่ต่อจากจิอิ และเพื่อป้องกันไม่ให้องค์กรชิงอัญมณีแพนโดร่าไปด้วย



          จอมโจรคิดไม่ว่าในรุ่นพ่อหรือรุ่นลูก ต่างก็ปรากฏตัวในยอดนักสืบจิ๋วโคนันเช่นกัน ทั้งในร่างบุคคลธรรมดาหรือจอมโจรคิด โดยคุโรบะ โทอิจิ เคยปรากฏตัวครั้งหนึ่งกับยูกิโกะและไคโตะในฉากรำลึกถึงอดีตในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ส่วนคุโรบะ ไคโตะ ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน "โคนัน VS จอมโจรคิด" และต่อมาก็ได้กลายเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องนั้น รวมถึงตัวละครเสริมผู้ขัดขวางจอมโจรคิด เช่น สารวัตรนากาโมริ กินโซ ฮาคุบะ ซางุรุก็ได้กลายเป็นตัวละครในเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน ในทางกลับกันตัวละครจากยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็เคยปะทะกับจอมโจรคิดมาแล้ว เช่น ในคดีแบล็กสตาร์ในจอมโจรอัจฉริยะ คุโด้ ชินอิจิ เคยปะทะกับคุโรบะ ไคโตะมาแล้ว และเชื่อกันว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเหตุที่ทำให้จอมโจรคิดและโคนันทราบตัวจริงซึ่งกันและกัน

ข้อมูลจำเพาะ


          ในคดี "ของขวัญจากอาคาโกะ" (จอมโจรอัจฉริยะ เล่ม 3) ฮาคุบะ ซางุรุ ได้เปิดเผยข้อมูลจำเพาะที่เกิดจากการเก็บรวบรวมได้ว่าจอมโจรคิดสูง 174 เซนติเมตร หนัก 58 กิโลกรัม อายุ 15-17 ปี หมู่เลือด B เชื้อสายญี่ปุ่น ผมดำ ตาซ้ายขวา 2.0 ระดับ ไอคิว 400 เล่นกีฬาเก่งโดยเฉพาะสกีแต่ไม่ถนัดสเก็ตน้ำแข็ง เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปเปรียบเทียบพบว่าตรงกับคุโรบะ ไคโตะ ทำให้ฮาคุบะกล่าวว่าจอมโจรคิดกับไคโตะเป็นบุคคลเดียวกัน แม้ตัวไคโตะจะปฏิเสธว่าไม่ใช่คิดก็ตาม นอกจากนี้ในเนื้อเรื่องพบว่าคิดชอบไอศกรีมช็อกโกแลต แต่กลัวปลา


ความสามารถและอุปกรณ์พิเศษ


           ความสามารถหลักของจอมโจรคิดไม่ว่าจะเป็นรุ่นพ่อหรือลูกคือการที่คิดสามารถปลอมตัวเป็นคนที่ไม่รู้จักและรู้จักได้เนียนมาก แม้กระทั่งเสียงก็สามารถปลอมได้โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องแปลงเสียง ในยอดนักสืบจิ๋วโคนันมีการกล่าวว่า ยูกิโกะซึ่งเป็นแม่ของชินอิจิได้ฝากตัวกับโทอิจิ ซึ่งครั้งนั้นทำให้ยูกิโกะรู้จักกับ ชารอน วินยาร์ด และทำให้เกิดเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างขึ้น ด้วยความได้เปรียบนี้ทำให้คิดสามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งของอัญมณีก่อนที่จะโจรกรรมได้โดยง่าย หรือในบางครั้งก็ทำการโจรกรรมทั้งที่ปลอมตัวอยู่ก็มีให้เห็น



อย่างไรก็ดี คิดก็ยังใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยในการโจรกรรมด้วย เช่นใช้นกพิราบที่ติดกับดักฟังเสียงเพื่อช่วยในการดักฟังข้อมูลจากระยะไกล โดยใช้แว่นตาขาเดียว ใช้แฮงไกลเดอร์ในการหลบหนี ใช้ปืนที่ยิงออกมาเป็นรูปไพ่เพื่อป้องกันตัว โดยไม่ใช้ปืนจริงเป็นอันขาด และใช้ผู้ช่วยในบางกรณี ดังจะสังเกตได้จากในอะนิเมะเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 356 ซึ่งโคนันกล่าวว่าคิดมีผู้ช่วยแสดงกลเดินบนอากาศ และต่อมาก็ได้รับการยืนยันเมื่อปรากฏว่าคิดได้จับเอาพวกของตนที่แฝงตัวเป็นนักข่าวหลบหนีไปด้วยกันในคดีเล่ม 61 แต่ถึงจะใช้อุปกรณ์ดีเพียงใดก็ตาม ก็ปรากฏในเนื้อเรื่องว่าคิดได้รับบาดเจ็บบ้างเช่นกันไม่ว่าจะเป็นจากผู้ขัดขวางเช่นโคนัน หรือบุคคลที่สามที่ไม่พอใจ เป็นต้น

นอกจากความสามารถในการโจรกรรม คิดยังมีความสามารถในการสืบสวนเช่นกัน ดังจะเห็นได้ในมูฟวี่ตอน บทเพลงมรณะแด่เหล่านักสืบ ที่คิดไปช่วยโคนันและเฮย์จิสึบสวนอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วจึงไปปิดบัญชีกับนายมิยามะซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนตัวการขโมยรถขนเงินที่คิดบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์ ซึ่งผู้ที่ขโมยนั้นก็คือรุ่นน้องที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยทางทะเลโยโกะฮะมะ ที่เดียวกับตัวประธานมิยามะนั่นเอง


ลักษณะการโจรกรรม


             ก่อนทำการโจรกรรม จอมโจรคิดจะส่งสาส์นเตือนถึงเหยื่อหรือตำรวจก่อน โดยสาส์นมีรูปแบบเป็นข้อความที่ต้องไขปริศนาอีกที รวมถึงมีรูปหน้าของจอมโจรคิด ซึ่งจอมโจรคิดจะวาดใหม่ทุกครั้งที่โจรกรรม เมื่อส่งสาส์นเตือนและตรวจสอบสถานที่โจรกรรมในบางครั้งเสร็จแล้ว จึงทำการโจรกรรมตามวิธีที่เขียนไว้ในสาส์นเตือน เช่น ทำการปลอมตัวเป็นผู้เกี่ยวข้องหรือตัวเหยื่อเพื่อตบตาตำรวจ และนำของหนีไป ทำให้เกิดความสับสนระหว่างของจริงและของปลอม แล้วชิงของจริงหนีไป เป็นต้น โดยในระหว่างการโจรกรรมคิดจะไม่ฆ่าคน ไม่ใช่ปืนจริง แต่จะขโมยของไปเพียงอย่างเดียว และไม่ลักพาตัวคนเป็นอันขาด โดยปกติแล้วในระหว่างการหลบหนีหรือการโจรกรรมนั้น คิดจะสวมชุดสูทสีขาวที่ทำจากผ้าไหม มีผ้าคลุมข้างหลังและหมวกสีขาว เนคไทสีแดง เสื้อเชื้ตตัวในสีน้ำเงิน และแว่นตาขาเดียว แต่ในบางครั้งเขาก็มิได้สวมชุดนี้อันเนื่องจากการปลอมตัวและเหตุผลอื่น ๆ เช่น เพื่อมิให้ถูกสังเกตได้โดยง่ายหากมีการใช้อุบายขโมยหรือหลบหนี เป็นต้น

ตามรายงานของตำรวจก่อนที่คิดจะลงมือโจรกรรมไข่อิมพีเรียล อีสเตอร์ในมูฟวี่ตอนที่ 3 ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ จอมโจรคิดก่อคดีรวมทั้งสิ้น 134 คดี โดย 15 คดีในจำนวนคดีทั้งหมดเป็นคดีที่เกิดขึ้น ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมัน และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 12 ประเทศ รวมอัญมณีที่ขโมยไปได้ 152 รายการ คิดเป็นมูลค่า 38,725 ล้านเยน